Facebook โดนเฮก กลายเป็นประเด็นร้อนจากในวันศุกร์ (28 กันยายน) เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เมื่อทางสื่อและสำนักข่าวทั่วโลกกำลังตีประเด็นร้อนแรงที่ Facebook ได้ประกาศออกมาเองว่า ข้อมูลของผู้ใช้งานเฟสบุ๊กทั่วโลกประมาณ 50 ล้านคน จะได้รับผลกระทบจากการโจมตีของแฮกเกอร์ที่เข้าโจมตีระบบรักษาความปลอดภัยในข้อมูลของผู้ใช้งาน ซึ่งจะส่งผลไปถึงข้อมูลของผู้ใช้ที่อาจรั่วไหลอีกครั้ง หลังจากเกิดปัญหามาแล้วเมื่อไม่นานมานี้
ปัญหาในลักษณะนี้ของเฟสบุ๊ค ได้เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งบริษัท ต้องออกมาชี้แจงต่อทางรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นข่าวใหญ่มาแล้ว โดยเรื่องที่ต้องหาทางปรับปรุงแก้ไขก็คือ มาตรการรักษาความปลอดภัยและข้อมูลที่เป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้ที่มีอยู่ทั่วโลก แล้วไม่เพียงแต่ข้อมูลส่วนตัวเท่าน้้น ยังมีปัญหาไปถึงข้อมูลของบริษัทหรือองค์กร หน่วยงานที่ใช้บริการ Facebook ที่ข้อมูลรั่วไหลออกไปด้วย
เกี่ยวกับเรื่องที่ Facebook โดนแฮก ทางสำนักข่าวหลักเช่นนิวยอร์กไทม์ยังรายงานเพิ่มอีกว่า การโดนโจมตีของ Facebook ในครั้งนี้ ส่งผลต่อฟีเจอร์ที่เรียกว่า “View As” ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างเร่งตรวจสอบความผิดพลาดหรือ Bug ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่
ตามรายงานเบื้องต้น Bug ที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะส่งผลให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้ทันทีเมื่อมีการล็อคอินเข้ามาด้วย Username และ Password ตามปกติ ดังนั้นในช่วงวันนี้ การเข้าเฟสบุ๊กอาจจะมีลักษณะที่แปลกไปคือ มีการสอบถามและให้ใส่ล็อคอินมากกว่าหนึ่งครั้ง
ทาง Facebook เองก็ได้ประกาศว่า ได้มีการรีเซ็ทและแก้ไขปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีกว่า 40 ล้านผู้ใช้งานที่จะยังสามารถรักษาความปลอดภัยไว้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน อีก 50 ล้านผู้ใช้งานที่จะได้รับผลกระทบคือถูก Logged Out ออกจาก Account ไม่ว่าจะทางคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปหรือทางมือถือ ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานี้
แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร???
มีรายงานว่า ทางด้าน มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ได้ออกมากล่าวถึงปัญหาในครั้งนี้ว่าบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ อย่างไรก็ตาม การโจมตีจากทางแฮกเกอร์ก็ทำให้ระบบการทำงานของเฟสบุ๊กในช่วง 1-2 วันนี้จะมีปัญหาติดขัด และอาจเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลจะถูกรั่วไหลออก
ด้านข้อมูลที่รั่วไหลออกมานั้น แฮกเกอร์จะใช้ APIs ในการเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานของผู้ใช้งาน อาทิ ชื่อ นามสกุล เพศ บ้านเกิด และอื่นๆ ตามแต่ข้อมูลที่ได้มีการลงไว้ในระบบ
สำหรับรายละเอียดเชิงลึกนั้น ยังคงไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากนัก แต่เวลานี้ทางหน่วยงานสืบสวนกลางของสหรัฐ หรือที่เรารู้จักกันว่า FBI ก็ได้เข้ามามีบทบาทในการสืบสวนครั้งนี้แล้ว เพื่อค้นหาแหล่งการโจมตีของแฮกเกอร์ นั่นเพราะเวลานี้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดมาจากในทวีปยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทในไอร์แลนด์ที่ใช้บริการของเฟสบุ๊ก และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในยุโรป
ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเฟสบุ๊ก อาจจะยังไม่เห็นผลกระทบกับฝั่งเอเชียมากนัก แต่ก็ยังประมาทไม่ได้เช่นกัน ซึ่งคงต้องติดตามรอดูกันต่อไปในเร็วๆนี้ครับว่าทางเฟสบุ๊กจะออกมาตรการใหม่ๆในการรักษาความปลอดภัยทางด้านข้อมูลของผู้ใช้งานอย่างไรบ้าง
===================================================================================
สำหรับผู้ที่สนใจอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ G Suite สามารถติดต่อทีมงาน Metrabyte Cloud
ได้โดยตรงที่ Line : goo.gl/M5d1Xx หรือ Tel. 02-0263-124
และสามารถดูรายละเอียดเบื่องต้น ได้ที่ G suite : https://www.metrabyte.cloud/gsuite.php ครับ
Comments are closed.