ในวันที่ Google Facebook เปลี่ยนแปลง และสาเหตุต่างๆที่เว็บไซต์และเพจเรายังไม่ดัง
เคยสงสัยหรือไม่ว่าเพราะอะไร
สำหรับคนทำตลาดออนไลน์ เจ้าของเว็บไซต์ และเพจทาง Facebook ไม่ว่าจะเพื่อนขายสินค้าทางออนไลน์หรือทำการตลาดให้กับบริษัทหรือองค์กรของตัวเอง ไปจนถึงธุรกิจ Local เล็กๆ การทำให้ช่องทางออนไลน์มียอดคนเข้ามาใช้บริการ หรือมียอดไลค์ ยอดวิวมากๆ เป็นเรื่องที่หลายคนพยายามทำกันอยู่ แต่ก็พบว่า หลายเว็บกลับยังไม่ดัง หรือขึ้นในหน้าแรกๆ
ทางแก้ปัญหาที่หลายคนพยายามทำคือ ทุ่มเงินลงไปเพื่อการโฆษณา ลงทุนทำ SEO ช่วยกระตุ้นการเข้าชมในเว็บไซต์หรือเพจต่างๆ ไปจนถึงจ้างการรีวิวโดย Influencer ก็แล้ว
แต่เว็บไซต์หรือเพจของเราก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือมีจำนวน Traffic เข้ามามากพออย่างที่คาดหวังไว้
วันนี้เราอยากอธิบายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมและ Trend ในการใช้งานของผู้คน ไปจนถึงรูปแบบการทำงานของ Google และ Facebook ที่มีการปรับเปลี่ยนในส่วนอัลกอริธึม ซึ่งได้ส่งผลให้การทำ SEO ในแนวคิดแบบเดิมๆหรือการซื้อโฆษณา ก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการเสมอเหมือนที่เคยเป็นครับ
1.การใช้งานบนมือถือพุ่งสูงสุด
รูปแบบการใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนแปลงไป เมื่อมือถือ (Mobile) กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน แม้ว่าผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือผ่านทาง Desktop ก็ยังมีอยู่มาก แต่กระทั่งในหลายสำนักงานของไทยเอง พนักงานจำนวนมากก็เริ่มใช้งานเครื่อง Laptop แทนที่ แต่นั่นเพื่อการทำงานเป็นหลัก ในขณะที่ส่วนของไลพ์สไตล์ ผู้คนหันมาค้นหาสิ่งต่างๆหรือทำธุรกรรมผ่านทางมือถือมากขึ้น อีกทั้งบรรดาบริษัทและองค์กรต่างๆเองก็ปรับตัวด้วยการสร้างแอพเพื่อใช้งานทางมือถือที่ให้ผู้ใช้บริการดาวโหลดมาลงอย่างง่ายๆกันมากขึ้น เช่น ธนาคาร
แม้แต่ร้านค้าหลายเองก็พยายามทำแอพหรือร่วมรายการกับแอพบางตัวเพื่อทำส่วนลด และจัดโปรโมชั่นสะสมคะแนน รวมถึงแอพสำหรับค้นหาหรือรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว สินค้าและบริการต่างๆ ช่องทาง Pantip ที่เป็นเว็บบอร์ดยอดนิยมของคนไทยเองก็หันมาพัฒนาแอพเพื่อให้บริการทางมือถือโดยเฉพาะด้วย จากที่แต่เดิมเพียงปรับรูปแบบหน้าจอสำหรับมือถือเท่านั้น
ดังนั้นธุรกิจไม่ว่าจะใหญ่ กลาง เล็ก ถ้ายังไม่ได้เริ่มทำเว็บไซต์เวอร์ชั่นเพื่อรองรับทางมือถือมากขึ้น ควรต้องเริ่มทำด้วยครับ
2.อัลกอริธึมของ Google เปลี่ยนแปลง
ปกติแล้ว Google จะมีการเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึม ซึ่งมักจะส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ต่างๆเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ซึ่งก็ยากจะบอกได้ว่าเปลี่ยนแปลงกันทุกกี่ปี
กรณีตัวอย่างเช่น ในปี 2011 มีการเปิดตัวอัลกอริธึม Panda เพื่อจัดการกับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ หลังจากนั้นจึงเริ่มมีตัวอื่นๆเปิดตัวมา ซึ่งส่งผลต่อการทำ SEO ไปด้วย เพราะทำให้หลายเว็บไซต์มีอันดับที่ร่วงลงมาจากหน้าแรกๆไปไกล เจ้าของธุรกิจหลายรายเสียโอกาสทางรายได้ไปจำนวนไม่น้อย ทำให้วิธีการทำ SEO ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งไม่เพียงแต่เจ้าของกิจการหรือเจ้าของเว็บไซต์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการในด้านการทำ SEO ไปด้วย เพราะปรับตัวไม่ทัน
แต่ก็ไม่ได้ส่งผลแต่ด้านลบ ยังมีด้านบวกด้วย เช่นเปิดโอกาสให้เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเชิงคุณภาพสูงได้มีโอกาสขึ้นมาอยู่ในหน้าแรกๆมากขึ้น
3.ต้องยึดผู้ใช้งาน User เป็นอันดับแรก
ไม่ว่า Google หรือ Facebook จะมีการเปลี่ยนอัลกอริธึมหรือวิธีการค้นหาและจับลิ้งก์ต่างๆไปมากขนาดไหนก็ตาม แต่การที่มีเนื้อหาเชิงคุณภาพและมีคุณค่าสำหรับผู้ใช้งานหรือผู้เข้าชมต่างๆ ก็จะทำให้เว็บไซต์นั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้คนหา และยังกระจายในโซเชียลได้
เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าทาง Google จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร หรือ Facebook จะเปลี่ยนระบบการเข้าถึง (Reach) ไปในลักษณะไหน แต่หน้าที่หลักของมันก็คือ “การคัดเลือกเว็บไซต์ที่ตรงกับสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการ” ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่ Facebook จะยิ่งมีผู้เข้าชมและมีส่วนร่วมมากขึ้นหากว่ามีเนื้อหาหรือ Content ที่มีคุณภาพ และโดนใจผู้อ่าน
แต่ถ้าในเว็บไซต์หรือเพจเหล่านั้นไม่มีเนื้อหาที่ดีพอ หรือมีจำนวนที่น่าสนใจไม่มากพอ สุดท้ายแล้วก็จะโดนเว็บอื่นๆที่ทำได้ดีกว่าในด้านเนื้อหาแซงหน้าในภายหลังอยู่ดี
โดยสรุปแล้ว
อันที่จริงไม่ว่า Platform ยักษ์ใหญ่ของโลกที่ได้รับความนิยมในทุกอย่างอย่าง Google หรือ Facebook จะได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานหรือรูปแบบของการค้นหาและการเข้าถึงข้อมูลไปมากขนาดไหน แต่แนวทางหลักๆในการทำเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักและติดอันดับการค้นหาให้ดีขึ้นนั้น สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการทำ SEO หรือเทคนิคในการใช้คีย์เวิร์ดต่างๆเข้ามาช่วยขนาดไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การผลิตเนื้อหาและ Content ในเว็บไซต์ที่เป็นเชิงคุณภาพ ซึ่งนี่จะเป็นทิศทางและอนาคตของการแข่งขันในการทำตลาดออนไลน์และการทำเว็บไซต์ต่างๆต่อไปครับ
===================================================================================
สำหรับผู้ที่สนใจอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ G Suite สามารถติดต่อทีมงาน Metrabyte Cloud
ได้โดยตรงที่ Line : goo.gl/M5d1Xx หรือ Tel. 02-0263-124
และสามารถดูรายละเอียดเบื่องต้น ได้ที่ G suite : https://www.metrabyte.cloud/gsuite.php ครับ
Comments are closed.