6 เหตุผลที่การทำธุรกิจทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ควรมี เว็บไซต์ ของตัวเอง

4,546

เว็บไซต์ ยังมีความจำเป็นสำหรับการทำธุรกิจหรือไม่ ในเมื่อเวลานี้ผู้คนนิยมใช้โซเชียลมีเดียต่างๆกันเป็นหลัก

หรือบางทีเราอาจถามกลับว่า ทำไมการทำธุรกิจถึงยังควรต้องมี เว็บไซต์ เป็นของตนเอง

แล้วถ้าเราทำธุรกิจหรือค้าขายบนออนไลน์ผ่านทางเครื่องมือโซเชียลเช่น Facebook หรือ Line เพียงพอแล้วหรือไม่

ที่จริงแล้วในยุคนี้ เว็บไซต์ ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือช่วยดันธุรกิจของเราเท่านั้น แต่มันสามารถเป็นหน้าร้านและที่มั่นของเราบนออนไลน์ และผสมผสานกับออฟไลน์ได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดย่อมก็ตาม

มาลองดูกันว่า อะไรคือ เหตุผลที่การทำธุรกิจบนออนไลน์ จึงควรต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แล้วมันจะดีอย่างไร

 

เพื่อให้ลูกค้าค้นหาเราพบใน Google

Search Engine อันดับหนึ่งของโลกในสิบปีมานี้ เราทราบกันดีว่าคือ Google ซึ่งก็มีจำนวน Traffic หรือการเข้ามาของผู้ค้นหามากที่สุด

โดยปกติแล้ว คนจะใช้ Google ก็เพื่อค้นหาในสิ่งที่ตนเองต้องการ แล้วยังเป็นการบ่งบอกว่า คนที่ค้นหานั้นมีความต้องการหรืออยากรู้ในสิ่งเหล่านั้นจริงๆ

แล้วประเด็นคือ เว็บไซต์ของเรามีความน่าดึงดูดเพียงพอต่อคนที่เข้ามาค้นหาหรือไม่

สำหรับผู้ที่ทำตลาดหรือทำธุรกิจผ่านทางเครื่องมือโซเชียลมีเดีย หรือบนแพลตฟอร์มต่างๆ ผสมผสานกับการทำออฟไลน์อยู่แล้วนั้น คำแนะนำอย่างหนึ่งที่บริษัทหรือคนทำ Content มักจะแนะนำก็คือ คุณควรทำเว็บไซต์เพิ่มเติม ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่แค่เพื่อให้เป็นหน้าร้านทางออนไลน์เท่านั้น แต่เพื่อที่ในขั้นถัดไปจะได้ทำ SEO หรือซื้อช่องทางโฆษณาทาง Google เพื่อกระตุ้นให้อันดับสำหรับการค้นหาเว็บไซต์ของเราขึ้นมาอยู่ในหน้าแรกๆหรือในอันดับต้นๆ

ประโยชน์ที่ได้ ย่อมเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าหรือคนที่ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้มองเห็นสินค้าและธุรกิจของเราผ่านทาง Google ได้นั่นเอง นั่นเพราะทุกวันนี้ผู้คนต่างก็ค้นหาสิ่งต่างๆกันบน Google อยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นช่องทางค้นหาที่ทรงพลังที่สุดช่องทางหนึ่งของทั้งโลกในเวลานี้ด้วย

ได้มีบ้านและหน้าร้านเป็นของตนเอง

แน่นอนว่า การที่เรามีเว็บไซต์เป็นของตนเอง ก็เหมือนกับการมีบ้านหรือหน้าร้านเป็นของเราเอง

เมื่อมีบ้านหรือร้าน เราก็สามารถที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ตกแต่งเพิ่มเติม ทำทุกอย่างได้ตามความต้องการของเรา เราจะใส่ข้อมูลอะไรก็ได้ตามแต่เราเลย

ซึ่งเว็บไซต์เองก็มีอยู่หลายรูปแบบ คำถามว่า แล้วแบบไหนดีที่สุด โดยรวมแล้ว พอจะแบ่งได้สองรูปแบบคือ

  • เขียนเว็บขึ้นใหม่เอง

    • ข้อดีของการทำแบบนี้คือ เราจะเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงเองทั้งหมด จะทำอะไรก็ได้ แต่ข้อด้อยคือ ต้องเสียเวลามาก ต้องจ้างคนทำเว็บไซต์ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าใช้เครื่องมือสำเร็จรูป
  • ใช้เครื่องมือเว็บสำเร็จรูป

    • ซึ่งก็มีทั้งแบบใช้เครื่องมือที่เป็นโครงสร้างสำหรับทำเว็บไซต์พื้นฐาน เช่น org และใช้เครื่องมือสำเร็จรูปที่เราต้องไปสร้างบนพื้นที่ของเว็บเช่น WordPress.com, Shopify, Wix, Weebly เป็นต้น ข้อดีคือ ค่าใช้จ่ายไม่มาก สะดวก ทำได้ง่าย แต่ข้อด้อยคือ ข้อมูลทุกอย่างจะไม่ได้อยู่กับเรา และรูปแบบของเว็บก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ถ้าต้องการที่มีลักษณะโดดเด่นมากจริงๆก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับ Template ต่างๆ

หากสนใจข้อมูลเรื่องเว็บไซต์ สามารถอ่านต่อได้ ที่นี่

เพิ่มความน่าเชื่อถือในธุรกิจ

อาจมีคำถามว่า ยุคสมัยนี้ การมีเว็บไซต์เป็นของตนเองกับไม่มี ความน่าเชื่อถือจะแตกต่างกันหรือไม่ หรือว่าหน้าร้านทางโซเชียลเช่นบน Facebook ก็เพียงพอแล้วหรือเปล่า

ที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและสินค้าของเราด้วย แม้ว่าบทความนี้ต้องการให้เหตุผลและข้อดีของการต้องมีเว็บไซต์ แต่สิ่งที่คุณควรคำนึงก่อนจะเริ่มทำก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ประเภทของสินค้าและบริการ ขอบเขตของธุรกิจ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย งบประมาณ พนักงานสำหรับดูแลเว็บไซต์ และอื่นๆ

นอกจากนี้ การดูแลและอัพเดทเว็บไซต์จำเป็นต้องอาศัยพลังงานมากกว่าการดูแลแพลตฟอร์มหรือโซเชียลมีเดียวช่องทางอื่นๆพอสมควร  แต่การที่มีเว็บไซต์ก็เสมือนการมีหน้าร้านที่พร้อมจะให้บริการได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับช่องทางโซเชียลอื่นๆมากเกินไป ยิ่งถ้าคุณต้องการขยายธุรกิจขึ้นไปอีกระดับ ถือว่ามีความจำเป็นไม่น้อยครับ

อีกข้อหนึ่งที่สำคัญ การค้นหาข้อมูลและรายละเอียด หรือ Content ที่ลูกค้าต้องการ การทำบนโซเชียลมีข้อจำกัดในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ในขณะที่การทำเว็บไซต์จะเป็นการช่วยจัดหมวดหมู่ของข้อมูลและ Content ของคุณไว้ให้เป็นระเบียบและพร้อมที่จะสามารถค้นหาได้ทุกเมื่อครับ

หรือการสร้างแอคเคาท์บนโซเชียลมีเดียพอสมควร ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับโลกออฟไลน์นั้นก็เหมือนกับการที่คุณสร้างร้านเอง กับคุณไปฝากของขายตาม Super Market หรือตามห้าง

การสร้างร้านของตัวเองนั้นมีความยุ่งยากกว่ามาก แต่ถ้าคุณมีหน้าร้าน มันก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความพร้อมที่จะบริการ และความเป็นมืออาชีพของคุณ ลองสังเกตดูว่าแบรนด์ส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงแล้วต่างก็มีเว็บไซต์ด้วยกันทั้งนั้น

 

ทำให้มี Domain name เป็นของตัวเอง

ข้อดีประการหนึ่งคือ จะทำให้เราสามารถใช้อีเมล์ของเราที่เป็นแบบ [email protected]

แทนที่จะเป็นการใช้ [email protected] เป็นอีเมล์ฟรีทั่วไป

ซึ่งมีข้อดีคือ เป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อต้องการขยายธุรกิจขึ้นมาครับ

 

ไม่มีผลกระทบ แม้ว่าเครื่องมือโซเชียลจะเปลี่ยนความนิยม

ใครจะไปรู้ว่า อีกไม่กี่ปีในอนาคต Facebook Line Instragram Twitter หรือช่องทางโซเชียลอื่นๆอาจจะมีกระแสที่เปลี่ยนแปลงไป หรือความนิยมลดน้อยลง อาจจะมีเครื่องมือและช่องทางอื่นๆเข้ามาแทนที่

แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนเครื่องมือไปขนาดไหน เว็บไซต์ของคุณก็ยังคงอยู่ครับ

(ประเด็นนี้ ถ้าสนใจอ่านต่อได้ ที่นี่)

 

เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆได้

หนึ่งในกลยุทธ์ที่นิยมใช้กันในช่วงหลังก็คือ ทำเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมาแล้วนำไปเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น แชร์ลง Facebook หรือ Line ตามแต่ที่กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่

ซึ่งเราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องที่เครื่องมือโซเชียลตัวไหนจะเสื่อมความนิยมไป เพราะในอนาคตหากว่า Facebook เริ่มความนิยมตกลง คุณก็สามารถเชื่อมโยงเว็บของคุณไปกับเครื่องมือโซเชียลอื่นๆแทนได้

 

โดยสรุป

การมีเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่การทำธุรกิจทางออนไลน์เท่านั้น แต่หากเราสามารถทำให้ลูกค้าที่ค้นหาข้อมูลบน Google ที่เจาะจงแล้วไปหาหน้าร้านของเราได้ในช่องทางออฟไลน์ มันจะดีเยี่ยมกว่า และจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวครับ

 

หากสนใจบริการทำเว็บไซต์ และอื่นๆ สามารถติดต่อได้จาก https://www.metrabyte.cloud/gsuite.php

 

===============================================================================

สำหรับผู้ที่สนใจอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ G Suite สามารถติดต่อทีมงาน Metrabyte Cloud

ได้โดยตรงที่ Line : goo.gl/M5d1Xx หรือ Tel. 02-0263-124

และสามารถดูรายละเอียดเบื่องต้น ได้ที่ G suite : https://www.metrabyte.cloud/gsuite.php ครับ

Comments are closed.