สร้างเว็บไซต์ ผลิต Content แก้ปัญหายอดเพจตก

การที่เราสร้างแบรนด์บน Social Media บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องผิด แต่รากฐานของช่องทางออนไลน์ที่แท้จริงคือเว็บไซต์ต่างหาก เพราะเว็บไซต์เป็นของเราจริงแท้แน่นอน

เมื่อเรามีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เราสามารถใช้เทคนิคอื่นได้อีก เช่นการทำ Content Marketing ซึ่งเป็นอีกวิธีการที่ได้ผลดีมากในระยะกลางและระยะยาว หรือจะใช้ระยะสั้นก็ได้ หากมีการผสมกับการยิงแอด และผลิต Content ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียน Content หรือทำ Video Content กระทั่งการทำ Image Content และ Infographic ก็สามารถช่วยในส่วนนี้ได้ดี

ที่สำคัญคือ เราสามารถผสมผสานเข้ากับการทำ SEO เป็นการช่วยดึง Organic Traffic มายังเว็บไซต์ได้ โดยใช้เครื่องมือวัดผลอย่าง Google Analytics สำหรับการวิเคราะห์ เพื่อให้รู้ว่ามีคนเข้าเว็บไซต์เราจากที่ไหนมากที่สุด ใช้ Google Search Console ช่วยดูว่ามี Keywords แบบไหนบ้างที่ตรงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าและบริการของเรา หรือดูแล้วน่าสนใจ เป็นกระแส และมีความเกี่ยวข้อง เราก็สามารถเอามาปรับใช้ได้

ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจมีคำถามและสงสัยว่า Organic Reach บน Facebook กำลังจะตายแล้วจริงหรือ??

ที่จริงแล้ว ต้องบอกว่า มันยังไม่ตายครับ เพียงแต่การแข่งขันมันสูง รวมถึงการยิง Ads แล้วจ่ายกันมาก ในขณะที่ New Feed มีจำกัด มันทำให้พื้นที่ตรงนี้ต้องจ่ายค่ายิงแอดกันสูงมาก

สำหรับทิศทางของการทำตลาดบนเพจ Facebook ก็มีแนวโน้มว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาใหญ่ที่เพจหลายแห่งกำลังเผชิญอยู่หลังจาก Facebook ได้ปรับการเข้าถึงของ Engagement ลดลง โดยเฉพาะการเข้าถึงแบบ Organic Reach จากเพจต่าง ๆ ซึ่งเดิมอยู่ที่ 5% ลดลงเหลือเพียง 4% เท่านั้น เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจที่เปิดร้านออนไลน์หรือเปิดเพจบน Facebook ต้องเจอปัญหากันอยู่

แต่ในภาพรวม Organic Reach บน Facebook ก็ยังสามารถอยู่ได้ เพียงแต่ว่า จำเป็นต้องมี Content และฐาน Follower ที่แข็งแกร่งมากพอ และมีการอัพเดทมากพอ

ตรงนี้เองที่เจ้าของเพจและแบรนด์ต่าง ๆ ที่อาศัยการทำตลาดบน Facebook เป็นช่องทางหลัก จำเป็นต้องปรับตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม

หนึ่งในทางแก้ไข เช่น ถ้าคุณทำธุรกิจออนไลน์อย่างจริงจัง คุณอาจจะต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเองเพื่ออะไร??? เพื่อลดการพึ่งพา Facebook หรือเพิ่มช่องทางอื่น ๆ มากขึ้น

สำหรับทางแก้ไขสำคัญ เช่น

• การทำ SEO Content
• หาช่องทาง Social Media เพิ่มเติม
• ประเมินสินค้าและบริการของเราว่าเข้ากับช่องทางไหนมากกว่า
• ทำการตลาดแบบ O2O (Offline to Online)

ซึ่งการมีเว็บไซต์ก็ไม่ใช่แค่โลดแล่นหรือขายของบนออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางเวลาเลือกค้นหาข้อมูล ก่อนจะไปซื้อทางออฟไลน์ที่หน้าร้านด้วย เนื่องจากสินค้าบางประเภทจะนิยมใช้ลักษณะนี้และลูกค้าก็ยังมีพฤติกรรมแบบนั้นอยู่ แต่แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือของหน้าร้านเราจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องมีเว็บไซต์ช่วยอีกทางหนึ่งด้วยครับ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยหรือระดับ SME

ซึ่งท้ายสุดท้ายแล้ว เราไม่ควรสร้างบ้านบนที่ดินของคนอื่นครับ เพราะไม่มีอะไรรับประกันว่า โซเชียลมีเดียที่เราใช้อยู่จะเกิดปัญหาขึ้นเมื่อไหร่